เอฟวีนิวทัวร์ ขอพาทุกท่านไปชมสถานที่แห่งความทรงจำอันงดงาม
“สวิตเซอร์แลนด์” ประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงเจริญพระชันษาและประทับยาวนานร่วม 17 ปี ณ เมืองเล็กๆ ที่ติดกับฝรั่งเศสและมีธรรมชาติสวยงาม ดังนั้นทุก ๆ สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ล้วนมีคุณค่าทางจิตใจต่อประชาชนคนไทยอย่างมหาศาลค่ะ
สถานที่ ๑ : Adelboden
เมื่อปี 1938 บนยอดเขา Adelboden ช่วงฤดูร้อน เกลย์อง เซไรดารีส คุณครูส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ได้พาเจ้าฟ้าทั้งสามพระองค์เสด็จเข้าค่ายฤดูร้อน ณ ที่แห่งนี้ค่ะ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเมือง Spiez มากนัก สำหรับคนพื้นที่ ฤดูร้อนที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวพาลูกหลานมาเดินป่าชมธรรมชาติ ส่วนในฤดูหนาวถือเป็นแหล่งเล่นสกีชั้นดี
สถานที่ ๒ : Gstaad
เมืองที่ประทับฤดูหนาวครั้งสุดท้ายในการเสด็จเยือนสวิตเซอร์แลนด์ และ Gstaad Palace เป็นโรงแรมที่พระองค์ทรงเลือกประทับ ก่อนทรงตัดสินพระทัยทุ่มเทพระวรกายเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่และจะไม่เสด็จฯออกนอกประเทศอีก
ในปี พศ.๒๕๐๓ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนพระโอรสธิดาให้ทรงสเก็ตน้ำแข็งและสกี ซึ่งเป็นกีฬาที่พระองค์ทรงโปรด และทรงฉลองวันปีใหม่ที่เมือง Gstaad อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา บรรยากาศเต็มไปด้วยความเกษมสำราญ ทรงแย้มพระสรวลเกือบทุกรูปเลยค่ะ
GSTAAD ปัจจุบันเป็นเมืองเล็กที่หรูหราราคาแพงติดอันดับต้น ๆ ของโซนยุโรป อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ในเขต Bernese Oberland ที่ความสูงระดับ 3,000 เมตร เป็นหมู่บ้านสกีที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง มีทั้งสปาระดับสูงมาตรฐานสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งติดอันดับหนึ่งของโลก มีร้านอาหารมิชลินอีกด้วยค่ะ ที่พักโรงแรมทั้งในตัวเมืองและหมู่บ้านโดยรอบค่ะ การสัญจรระหว่างยอดเขาทุกยอดนั้นสะดวกสบายค่ะ เพราะเค้ามีลิฟท์เชื่อมกันถึง 62 ตัวค่ะ การันตีความหรูหราของเมืองนี้ด้วย Andrea Casiraghi ลูกชายของเจ้าหญิงแคโรไลน์แห่งโมนาโกเลือกมาจัดงานแต่งงานที่นี่พร้อมด้วยแขกเหรื่อสังคมระดับสูงมากมาย และยังมีบ้านตากอากาศเซเลปอีกหลายคนทั้ง จูลี่ แอนดรูว์ส,อลิซาเบท เทย์เลอร์
สถานที่ ๓ : Lac Leman ทะเลสาบเลอมอง
ชื่อที่คนทั่วไปจะเรียกว่า ทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สมาชิกราชสกุลมหิดลทั้ง 4 พระองค์ ได้เสด็จมาพักผ่อนอย่างเรียบง่ายตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่พำนักอยู่ที่เมืองโลซานน์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงหัดเล่นเรือใบมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดกีฬาเรือใบเป็นพิเศษและทรงมีพระปรีชาสามารถในการแล่นใบ จนถึงมีพระอัจฉริยภาพในการต่อเรือใบจากฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง
ทะเลสาบเลอมอง (Lac Leman) หรือ ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) มีความสวยงามระดับที่ได้ฉายาว่า ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส ด้วยเหตุที่ว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป มีอาณาเขตติดกับเมืองเอเวียงประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย ด้วยทำเลที่อยู่ระหว่างชายแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส และอยู่ท่ามกลางแวดล้อมของเมืองใหญ่น้อยอันน่าหลงใหล ไร่องุ่นที่เขียวชอุ่ม และVaud Alps ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี
สถานที่ ๔ : BERN กรุงเบิร์น
เมืองนี้ไม่ใช่สถานที่ประทับของในหลวงและครอบครัวราชสกุลมหิดลโดยตรง แต่ครั้งหนึ่งเมืองนี้เคยให้การรับเสด็จพระองค์อย่างสมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์พร้อมด้วยพระบรมวงศ์เสด็จเยือนกรุงเบิร์น อย่างเป็นทางการ โดยนาย Max Petitpierre ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ให้การต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ เสด็จฯ ณ กรุงเบิร์น อย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ เพื่อเจริญพระราชไมตรีระหว่างประเทศไทยและสมาพันธรัฐสวิสให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองมรดกโลก ที่รับรองโดย UNESCO มีสัญลักษณ์ประจำเมืองคือหมี เป็นเมืองเก่า Old Town ยุคกลางที่มีความงดงาม สร้างขึ้นบนเนินเขา ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางประเทศ ที่มีแม่น้ำ Aare (อาเรอ) โอบล้อมไว้ทั้ง 3 ด้านจุดเด่นคือ หอนาฬิกา (Zytglogge Clock Tower), Munster Cathedral มหาวิหารมีนสเตอร์, น้ำพุโบราณที่มีอยู่รอบเมืองเบิร์น, สวนหมี หรือ Barengraben
สถานที่ ๕ : Lausanne เมืองโลซานน์
เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมด้วยทะเลสาบเจนีวาและหุบเขาน้อยใหญ่ลดหลั่นกันไป เงียบสงบ งดงาม และเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในหัวใจของคนไทย เพราะมีสองพระมหากษัตริย์ไทยทรงประทับและศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476-2488 โดยมีพระบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ 8-9 เป็นผู้ดูแลพระธิดาและพระโอรสอย่างใกล้ชิด เมืองแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นบ้านหลังที่สองของพระองค์ที่หล่อหลอมพระองค์ทั้งการศึกษา กีฬา การเรียนรู้ในหลากหลายมิติ ดังที่เราเห็นพระปรีชาสามารถในแทบทุกทางของพระองค์ท่าน ทั้งนักประดิษฐ์ กีฬา วิทยาศาสตร์ จนถึงภาษาที่ท่านสามารถตรัสได้หลายภาษาก็เพราะสวิสเป็นประเทศที่มีภาษาราชการมากถึง 3 ภาษา คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี
ศาลาไทย ในสวนสาธารณะ Le Denantou ชื่อท้องถิ่น "Pavillon Thaïlandais" รัฐบาลไทยได้สร้างในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา และการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิตฯครบ 75 ปี มอบแก่เมืองโลซานน์โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเสด็จมาทรงเปิดในปี 2550
แฟลตเลขที่ 19 ถนน Avenue de l’Avant-Poste ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จย่าตั้งแต่ปี 2493 หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงราชาภิเษกแล้ว
วิลล่าวัฒนา Villa Vadhana เป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในสวิตเซอร์แลนด์ เมืองปุยยี นอกเมืองโลซาน หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา (ทะเลสาบเลม็อง) และมองเห็นเทือกเขาแอลป์
ที่ตั้ง เลขที่ 51 ถนน Chemin de Chamblandes (ปัจจุบันไม่มีตึกนั้นอยู่แล้ว)
โรงแรม Beau-Rivage Palace
ที่พักฮันนีมูนของสมเด็จย่าและพระบรมมหาราชชนก
Clinique de Montchoisi
สถานพยาบาลอันเป็นที่ประสูติของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
มหาวิทยาลัยโลซานน์ที่หน้าลาน Place de la Riponne
เป็นสถาบันในระดับอุดมศึกษาของราชสกุลมหิดล โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงศึกษาทางด้านวิชาเคมี, รัชกาลที่ 8 ทรงศึกษาด้านนิติศาสตร์ และในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเลือกศึกษาวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อปี พ.ศ.2489 เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ด้วยพระราชภาระเป็นพระมหากษัตริย์ ทำให้ทรงเปลี่ยนมาศึกษาด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์แทน เพื่อนำมาเป็นแนวปรับปรุงแก้ไขประเทศไทยให้เจริญขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
การที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่รักและห่วงใยประชาชนของพระองค์ทุกลมหายใจ และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนคนไทยรักและเทิดทูนที่สุด รวมถึงนานาชาติต่างยอมรับยกย่องในพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านได้นั้น นอกจากระบบการศึกษาที่ดีเลิศของสวิตเซอร์แลนด์จะมีส่วนสำคัญแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ทรงเป็นยุวกษัตริย์ ในหลวงทรงเชื่อฟังพระราโชวาทของสมเด็จพระบรมราชชนนีเป็นอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเป็นจอมปราชญ์ที่ทรงพระอัจฉริยภาพในหลากหลายศาสตร์ศิลป์นั้น ล้วนเกิดจากการน้อมนำเอาพระราโชวาทของพระราชมารดามาปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชปณิธานที่ทรงปรารถนาให้พสกนิกรไทยอยู่ดีมีสุข
ถ้อยรับสั่งสอนของสมเด็จย่าที่มีต่อในหลวงนั้น มักทรงเน้นย้ำในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมในด้านความรับผิดชอบเป็นหลัก ดังพระราโชวาทหนึ่งที่มีความว่า “ในครอบครัวเรา ความรับผิดชอบเป็นของที่ไม่ต้องคิด เป็นธรรมชาติ สิ่งที่สอนอันแรกคือ เราจะทำอะไรให้เมืองไทย ถ้าไม่มีความรับผิดชอบจะไปช่วยเมืองไทยได้อย่างไร”
“อันที่จริงเธอก็ชื่อภูมิพล ที่แปลว่า กำลังของแผ่นดิน แม่อยากให้เธออยู่กับดิน” ต่อมาภายหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปรารภถึงสิ่งที่สมเด็จพระบรมราชชนนีเคยรับสั่งว่า
"เมื่อฟังคำพูดนี้แล้วก็กลับมาคิด ซึ่งแม่ก็คงจะสอนเรา และมีจุดมุ่งหมายว่า อยากให้เราติดดิน...และอยากให้ทำงานให้แก่ประชาชน"
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้มีร่องรอยความทรงจำเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ของมหาราชแห่งแผ่นดินไทย พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยดำรงอยู่ในหลาย ๆ สถานที่ ความระลึกถึงพระองค์ท่านไม่เคยจางหาย และจะอยู่ในดวงใจของพสกนิกรเสมอและตลอดไป
ร่วมน้อมรำลึก วันคล้ายวันสวรรคต
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท เอฟวีนิว อินเตอร์ แทรเวิล กรุ๊ป จำกัด
ชอบบทความ เอฟวีนิวทัวร์ ทำยังไงนะ?
1.กดแชร์ส่งต่อ ให้เพื่อนๆอ่านกันได้คะ
2.คลิก Like และ ติดตาม follow เราได้ที่ช่องทางเฟชบุ้ค
02-108-8666
@avenuetour
Avenue Inter Travel Group
AVENUE INTER TRAVEL GROUP เราชำนาญทัวร์ เส้นทางยุโรปและเอเชีย
#ทัวร์ยุโรป #ทัวร์คุณปั่น #ชำนาญยุโรป #ทัวร์เอเชีย #ทัวร์สุดคุ้ม #รับจัดทัวร์ #รับจัดทัวร์หมู่คณะ #เราชำนาญเส้นทางยุโรปและเอเชีย