ตะลุยดินแดนในฝัน 8 สถานที่จริงในภาพยนตร์ของ "วอลต์ ดิสนีย์" (Walt Disney)

✨ตะลุยดินแดนในฝัน 

8 สถานที่ในภาพยนตร์ดิสนีย์✨

มีใครรู้บ้างว่า??  ภาพสถานที่สวยๆ ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ของดิสนีย์นั้น ผู้สร้างมีแรงบันดาลใจมาจากสถานที่สวยๆ ทั่วโลก แต่จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเล้ยจ้า สถานที่แรกก็คือ…       

1. พระราชวังอัลกาซาร์ เซโกเบีย ประเทศสเปน
(Alcázar of Segovia, Spain)

จากเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs (สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด) และ Cinderella (ซินเดอเรลล่า) ปราสาทแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยาย ด้วยความงามของสถาปัตยกรรมและจุดที่ตั้งของปราสาท บนผาสูงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อช่วงศตวรรษที่ 13  โดยตอนแรกถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมของชาวมุสลิมมัวร์ แต่กษัตริย์คริสเตียนสเปนได้ปรับปรุงให้เป็นพระราชวัง และมีการเติมต่ออาคารในเวลาต่อเนื่องจนถึงศตวรรษที่ 16

2. พระราชวังกู้กง หรือ พระราชวังต้องห้าม ประเทศจีน (The Forbidden City, Beijing, China)

จากเรื่อง Mula (มู่หลาน)สร้างในสมัยพระเจ้าหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง ประเทศจีน สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1406 ซึ่งในอดีเคยเป็นที่ประทับของจักพรรดิ์ในสมัยราชวงศ์หมิง รวม 24 รัชกาล และปัจจุบันยังเป็น พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ถึง 9,999 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร  ที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ

 

3.ทัชมาฮาล เมืองอักรา ประเทศอินเดีย
(Taj Mahal, Agra, India)

จากเรื่อง Aladdin (อะลาดิน) ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย เป็น 1 ใน 7  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าชาห์ชะฮานกับพระมเหสีที่พบรักกันตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุ 14 พรรษา และ 5 ปี ต่อมา ทั้งสองพระองค์ก็ทรงอภิเกสมรสกัน พระเจ้าชาห์ชะฮานจึงเรียกพระมเหสีว่า มุมตัช มาฮาล แปลว่า “อัญมณีแห่งราชวัง” ซึ่งทัชมาฮาลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหลุมฝั่งศพของพระนางมุมตัช มาฮาลที่ทรงสิ้นพระชนษ์หลังจากให้กำเนิดธิดาองค์ที่ 14 ใช้ผู้สร้างและผู้ร่วมออกแบบกว่า 20,000 คน และใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแดง และประดับด้วยเพชร พลอย หิน จากหลายลายประเทศไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย อียิปต์ เนปาล ฯลฯ  

4. ปราสาทชิยอง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

(Château de Chillon, Switzerland) 

จากเรื่อง The Little Mermaid (เดอะลิตเติ้ลเมอร์เมด เงือกน้อยผจญภัย) ปราสาทชิยอง ประเทศสวิส ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทเก่าแก่สไตล์โกธิคอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลางสมัยของราชวงศ์ซาวอย Savoy ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บค่าผ่านทางและใช้เพื่อควบคุมการเดินเรือในทะเลสาบเจนีวา ปราสาทนี้สร้างขึ้นอย่างแน่นหนาและมิดชิด ด้านนอกมีหน้าต่างเล็กๆสำหรับมองออกมาจากภายในเท่านั้น  เพื่อเป็นการป้องกันนักโทษจากการหลบหนี เนื่องจากแต่เดิมที่นี่เคยเป็นสถานที่กักขังของนักโทษ ในปราสาทมีห้องจำนวนมากให้ได้เข้าไปชม ไม่ว่าจะเป็นห้องเก็บเสบียงอาหาร ห้องเก็บไวน์  ห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีเตาผิง ถ้วยโบราณ และอุปกรณ์ทำอาหารจัดเรียงเอาไว้ ถัดมาจะเป็นห้องแห่งการสังสรรค์หรือที่เรียกว่า “ฮอลล์ ออฟ จัสทิส” (Hall of Justic) นอกจากนี้ยังมีห้องอื่นๆที่สามารถเข้าไปชมได้อีกด้วย

5. ปราสาทนอยชวานสไตน์ ประเทศเยอรมนี (Neuschwanstein Castle, Germany)

จากเรื่อง Sleeping Beauty (เจ้าหญิงนิทรา) ปราสาทนอยชวานสไตน์ ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1845-1886 เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ และเป็นที่รู้จักกันดี เนื่องจากเป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และปราสาทแห่งนี้ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในศตวรรษที่ 19 พระองค์มีพระประสงค์ต้องการสร้างปราสาทที่งดงามตามที่ ริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) นักประพันธ์ชื่อดังแห่งยุคและเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าลุดวิก ได้บรรยายเอาไว้ในนิยาย “อัศวินหงส์” (Swan Knight) ซึ่งได้กลายเป็นที่มาของการเรียกปราสาทแห่งนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทหงส์” (Swan Castle)

6. โอเปร่าเฮาส์ ซิดนีย์ฮาร์เบอร์ ประเทศออสเตรเลีย
(Sydney Harbour, Australia) 

จากเรื่อง Finding Nemo (นีโมปลาเล็ก หัวใจโต๊โต) โอเปร่าเฮาส์ ซิดนีย์ฮาร์เบอร์ ตั้งอยู่บนอ่าวซิดนีย์ กลางเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นสะพานระนาบเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในทศวรรษ 1930 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เป็นสะพานที่ชาวออสเตรเลีย ใช้ในการสัญจรไปมาระหว่างซิดนีย์และนอร์ธซิดนีย์ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของออสเตรเลียค่ะ

7. บิ๊กเบน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

(Big Ben, London, England)  

 จากเรื่อง Peter Pan (ปีเตอร์แพน) บิ๊กเบน ประเทศอังกฤษ เป็นหอนาฬิกาบอกเวลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแลนด์มาร์คของกรุงลอนดอน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "มหาระฆังแห่งหอคอยเอลิซาเบธ" (Great Bell of the Elizabeth Tower) เป็นสถานที่ที่ถ้าไม่ได้มาถ่ายรูปหรือเช็คอินถือว่ามาไม่ถึงลอนดอน บิ๊กเบนถูกตั้งอยู่ในกรุงลอนดอกมากว่า 150 ปีแล้วค่ะ ซึ่งจุดเด่นของหอนาฬิกาแห่งนี้คือ สามารถบอกเวลาได้ทั้ง 4 ทิศทาง ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกานี้ถูกสร้างหลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 โดยชาลส์ แบร์รี เป็นผู้ออกแบบ

8. มงแซงมิเชล แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส

(Mont Saint-Michel, Normandy, France)

จากเรื่อง Tangled (ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ) มงแซงมิเชล ประเทศฝรั่งเศส เป็นวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเล ฝั่งตะวันตก แคว้นนอร์มังดีของประเทศฝรั่งเศส และถูกยกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตก (Wonder of the Western World) วิหารนี้ทำมาจากหินแกรนิต อายุเก่าแก่นับพันปี สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 708 โดยนักบุญโอแบรต์ (Saint Aubert) เพื่ออุทิศถวายให้กับอัครเทวทูตไมเคิลหรือมิคาเอล  นักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองชาวเรือในสมัยนั้น แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากถึง 3 ล้านคนเลยทีเดียว 

 

เป็นไงกันบ้างเอ่ย  8 สถานที่ดินแดนฝันในภาพยนตร์ดิสนีย์ เชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นเคยกับเหล่าตัวการ์ตูนในดิสนีย์กันอย่างแน่นอน นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นน้า เพราะยังมีสถานที่สวยๆ ที่นำมาเป็นสถานที่ในภาพยนตร์ของดิสนีย์อีกนับไม่ถ้วนมากมายเลย ถ้าใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยว บริษัทเอฟวีนิวทัวร์ มีทัวร์ที่น่าสนใจกิจกรรมแน่นๆ ลองคลิกชมลิงค์ด้านล่างได้เลยนะค้า

 02-108-8666