เช็คอินอิตาลีตอนเหนือ...ที่สุดแห่งธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ (Dolomite National Park)

เทือกเขาโดโลไมท์

(Dolomites)

    ดินแดนแห่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยทัศนียภาพที่แปลกตาที่มีเทือกเขาแอลป์ล้อมรอบเป็นแนวกำแพง สวยงามและโรแมนติกจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO อีกด้วย เทือกเขาโดโลไมท์เหมาะสำหรับวันพักผ่อนสบายๆ ด้วยความที่เป็นเมืองตากอากาศด้วยทำให้มีครอบครัวและคู่รักมาใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดด้วยกัน

เทือกเขาโดโลไมท์ควรเที่ยวช่วงไหนดี?

 อากาศดีๆ เย็นสบายแถมยังมีแสงแดดอุ่นๆ กับทิวทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าเขียวขจีที่เป็นช่วงที่ใบไม้เริ่มผลินั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ดีอีกช่วงนึงเลยของเดือนเมษายน-มิถุนายนเลยก็ว่าได้ค่ะ หรือช่วงซัมเมอร์ที่เด็กๆและครอบครัวได้มีเวลาวันหยุดมาใช้เวลาด้วยกัน แต่อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนไทยในช่วงนี้เพราะว่าอากศร้อนพอตัวเลยค่ะ คือช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน แต่คนยุโรปจะเที่ยวช่วงนี้อย่างมากกว่าทุกช่วงเพราะเป็นช่วงที่มีแดดดีสำหรับประเทศเขาค่ะ สายโรแมนติกห้ามพลาดกับสีสันสวยงามของธรรมชาติคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงของเดือนตุลาคม-ธันวาคม ที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นส้มจนแดงสวยงามสะดุดตา อีกช่วงที่สวยงามไม่แพ้กันนั่นก็คือช่วงฤดูหนาวของเดือนมกราคม-มีนาคม ที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วภูเขาและพื้นดิน ยิ่งหิมะตกพรำๆจะยิ่งสวยมากๆค่ะแต่จะตกมากน้อยก็แล้วแต่เดือนและสภาพอากาศวันนั้นๆค่า อย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศและเตรียมเสื้อกันหนาว และที่สำคัญคนข้างกายเพื่อเพิ่มไออุ่นค่า

แต่ไฮไลท์ทริปนี้เอฟวีนิวทัวร์เรามี 4 สถานที่ที่ธรรมชาติสวยงามจนต้องไปให้ได้มาฝากค่ะ

1. ทะเลสาบเบรียส (LAKE BRAIES)

    เริ่มต้นกันด้วยที่ทะเลสาบเบรียส (LAKE BRAIES) ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ด้วยน้ำสีเขียวมรกตแสนใสราวกับกระจกที่แม้คุณชะเง้อหน้ามองลงไปในน้ำก็เห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน ทะเลสาบเบรียสนั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบมีความเป็นธรรมชาติอย่างมากด้วยความอุดมสมบูรณ์ต้นสนอันเขียวชอุ่มที่อยู่เป็นฉากหลังกับทั้งภูเขาหินปูนที่สูงเสียดฟ้า สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกับธรรมชาติของทะเลสาบแห่งนี้

2. ทะเลสาบมิซูรีนา (Lake Misurina)

   ต่อมาด้วยทะเลสาบที่ลึกแต่ไม่ลับ ทะเลสาบมิซูรีนา (Misurina) ที่นี่ก็เป็นทะเลสาบมีชื่อเสียงเช่นกัน มีจุดเด่นคือน้ำในทะเลสาบที่ใสแจ๋วจนเห็นเงาของภูเขาสะท้อนลงบนผืนน้ำ ทั้งยังเป็นวิวที่มีอาคารที่คล้ายๆโรงแรมตั้งอยู่แต่จริงๆแล้วอาคารแห่งนั้นคือโรงพยาบาลนั่นเอง ในส่วนรอบๆทะเลสาบนั้นยังมีร้านอาหาร ร้านให้เช่าอุปกรณ์สำหรับสกี และมีลานสกีตั้งอยู่ไม่ไกลอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบที่น่าไปอีกแห่งเลยค่ะ

3. หมู่บ้าน แอลป์ดิซูซี่ (Alpe di Siusi)

  ความยิ่งใหญ่ในสถานที่ต่อมาต้องให้หมู่บ้านแอลป์ดิซูซี่ (Alpe di Siusi) ที่ยิ่งใหญ่นั้นก็เพราะว่ามีทุ่งหญ้าอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และมีหมู่บ้านเล็กๆที่มีธรรมชาติรายล้อมอย่างสวยงาม จุดเด่นของที่นี่คือช่วงฤดูหนาวนักเล่นสกีจะพากันมาที่นี่เพื่อไปเล่นสกีกัน แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้ามาเพื่อเดินเท้าไปตามเส้นทางธรรมชาติ เป็นอีกจุดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของทริปโดโลไมท์เลยก็ว่าได้ค่ะ

4. ยอดเขาเซเชด้า (Seceda)

   และที่สุดท้ายที่เราจะพาไปชมนั่นก็คือ ยอดเขาเซเชด้า Seceda ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ออร์ติเซ (Ortisei) ไฮไลท์ที่นี่อยู่ที่กระเช้าลอยฟ้า ที่เรานั่งขึ้นไปบนยอดเขาแหลมมีลักษณะวางตัวเอนเฉียงคล้ายๆฟันของฉลาม วิวทิวทัศน์ด้านหนึ่งเป็นผาหิน ส่วนอีกด้านคือทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส เป็นจุดชมวิวที่พีคที่สุดของโดโลไมท์อีกแห่งเลยก็ว่าได้ค่ะ

 
เป็นยังไงกันบ้างคะ?...สวยจนอยากไปพักผ่อนจิตใจเลยใช่มั้ยครั้งนึงในชีวิตหากได้ไปอิตาลีเราต้องมาสัมผัสสักครั้งให้ได้นะคะทุกคน…หากมีโอกาสโควิต-19 หายแล้วไปเที่ยวด้วยกันนะคะ

(ขอขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay และข้อมูลจาก gotouchthesky , seeyouagain-europe)

 

 02-108-8666