มาทำความรู้จักกับ ภูฏาน (Bhutan) กันคร่าวๆ ก่อนจะเดินทางไปเยือนถิ่นเค้ากันค่า ภูฏาน ซึ่งมีฉายาว่า ดินแดนมังกรสายฟ้า เนื่องจากชื่อภาษาถิ่นของเค้าคือ Druk Yul (อ่านว่า ดรุก-อือ) ที่แปลว่า “ดินแดนของมังกร” นั่นเอง โดยที่นี่เป็นประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ และมีภูเขาเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศอินเดียกับจีน ชาวภูฏานส่วนใหญ่จะใช้ภาษาซองคาและภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพราะเป็นภาษาราชการของเค้า โดยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีจำนวนประชากรประมาณ 708,265 คน ประเทศภูฏานใช้สกุลเงิน "งุลตรัม" (1 งุลตรัมประมาณ 0.72 บาท) สภาพอากาศของที่นี่ก็จะมี 4 ฤดูด้วยกันคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว หากท่านใครอยากไปเยือนดินแดนมังกรสายฟ้าแล้วละก็การเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศภูฏาน มีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินดรุ๊กแอร์ (Druk Air) และ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ (Bhutan Airline) ว่าแต่ทำไมต้องไปภูฏานละ ก็ที่นี่เค้ามีความโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรม อารยธรรม สถาปัตยกรรมที่สวยงาม และก็ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก รวมไปถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนที่นี่ด้วย ซึ่งเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอีกมากมายที่รอให้ทุกท่านได้เข้าไปเยือน จะมีที่ไหนกันบ้างไปดูกันเลยค่า
วัดทักซัง (Pero Taktsang)มาเที่ยวภูฏานทั้งทีต้องไม่พลาดกับ วัดทักซัง หรือ วัดรังเสือ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของภูฏาน โดยตัววัดตั้งอยู่บนหน้าผาสูงในเมืองพาโร ซึ่งทุกท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่เขียวขจีและหุบเขาเรียงรายสลับซับซ้อนที่อยู่บริเวณรอบๆ ได้อย่างชัดแจ๋วเลยล่ะค่า ก่อนจะขึ้นไปยังวัดทักซัง ที่นี่เค้าก็มีบริการม้าโพนี่ไว้ให้นั่งขึ้นไปยังวัดด้วย แต่หากท่านใดอยากเดินขึ้นไปเองก็ได้ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะระยะทางค่อนข้างไกลและเป็นทางขึ้นเขา โดยเราจะใช้เวลาในการเดินทางเพียง 45 นาที หรือ 1 ชม. โดยประมาณ ส่วนเรื่องของราคาก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าของม้าเลยค่ะ พูนาคา ซอง (Phunakha Dzong) พูนาคา ซอง หรือป้อมปราการของภูฏาน ที่นี่ถูกสร้างขึ้นโดยมีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ซึ่งตัวป้อมจะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโพซูกับแม่น้ำโมซูที่ไหลเวียนมาบรรจบกันอย่างลงตัวที่เมืองพูคา บวกกับทัศนียภาพของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รายล้อม ทำให้ป้อมปราการแห่งนี้ดูร่มรื่น และสวยสะดุดตา จนอยากจะมาเที่ยวเลยล่ะค่า และหากท่านใดสนใจหรือมีแพลนจะมาเที่ยวที่พูนาคา ซอง เอฟวีนิวทัวร์ ขอแนะนำให้มาในช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของประเทศภูฏาน ทุกท่านจะได้เห็นต้น จาคารันดา (Jacaranda) ที่ผลิดอกสีม่วงบานสะพลั่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำทางด้านหน้าของพูนาคา ซอง อย่างสวยงามจนอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปเซลฟี่เลยล่ะค่า
โดชูลา พาส (Dochula Pass)โดชูลา พาส ตั้งอยู่ระหว่างเมืองพูนาคาและเมืองทิมพู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของภูฏานที่น่าไปมาก เพราะสวยไม่แพ้ที่อื่นเลย โดยที่แห่งนี้จะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนสุดและมีสถูปเล็กๆ รายล้อมอยู่บริเวณรอบๆ อย่างสวยงาม ถึง 108 องค์ เรียกว่า สถูปแห่งชัยนะ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามระหว่างภูฏานกับอินเดีย เมื่อปี 2003โดยคนที่นี่เชื่อกันว่า จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ แก่ผู้ที่เดินทางผ่านไปผ่านมาและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่ทุกท่านสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้แบบชัดแจ๋วเลยละค่า
หุบเขาฮาวาลเล่ย์ (Haa Valley)
ต่อกันที่ หุบเขาฮาวาลเล่ย์ ตั้งอยุ่ในชนบทของเมืองฮา ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงามและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยภายในหุบเขายังเป็นทุ่งข้าวฟ่าง บาร์เล่ย์ ไร่มันฝรั่ง รวมไปถึงป่ากุหลาบพันปี เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูปกันรัวๆ อีกด้วย ซึ่งหากโชคดีในระหว่างทางทุกท่านยังจะได้เห็นฝูงจามรีที่กำลังกินหญ้าอยู่ตามข้างทางอีกด้วยค่า และที่สำคัญที่นี่เค้าได้ขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางการปืนเขาที่มีความงดงามที่สุดในโลกเลยด้วยน้า โดย
เรียกว่า “ฮาส์ แพลนเทอร์สเทรล”
หุบเขาผอบจิกะ (Phobjikha Valley)หุบเขาผอบจิกะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หุบเขากังเต (Gangtey Valley) ตั้งอยู่ในเมืองผอบจิกะ เป็นหุบเขาที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องนกกระเรียนคอดำที่อพยพหนีหนาวจากที่สูงของทิเบตมาพักอาศัยอยู่ที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่กันอย่างล้นหลาม หากทุกท่านมาเที่ยวในช่วงปลายเดือนตุลาคม - มีนาคม จะเป็นช่วงที่หุบเขาแห่งนี้งดงามที่สุด เพราะทุกท่านจะได้พบกับป่าสนเขียวขจี ป่าดึกดำบรรพ์ เทือกเขาสูงเรียงรายสลับซับซ้อน รวมไปถึง ไร่มันสำปะหลังที่ผสมผสานกันอย่างสวยงาม จนอยากจะมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ทุกท่านยังสามารถเข้าไปเดินเล่นชิวๆ ในเมืองผอบจิกะได้ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา เป็นเมืองสไตล์เรียบง่าย มีความเงียบสงบ ผู้คนน่ารักเป็นกันเอง เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจกันกับครอบครัวเลยค่า
สถานอนุรักษ์ตัวทาคิน (Motithang Takin Preserve)
ปิดท้ายกันที่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติกันค่ะ เมื่อก่อนที่แห่งนี้เคยเปิดเป็นสวนสัตว์แห่งชาติมาก่อน โดยตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู หากท่านใดได้มาเที่ยวที่นี่ก็จะได้พบกับตัวทาคิน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายากที่พบได้แค่ในประเทศภูฏานเท่านั้นน้า และยังเป็นสัตว์ประจำชาติที่กำลังจะสูญพันธุ์อีกด้วย โดยตัวทาคินจะมีลักษณะคล้ายกับวัวผสมแพะแต่จะไม่มีเครา มีลำตัวที่ใหญ่และแข็งแรง มีสี่ขา มีเขาที่สวยงาม และมีขนสีดำ ชอบเดินช้าๆ และพักอาศัยอยู่บนที่สูง นอกจากตัวทาคินแล้ว ที่นี่ยังมีสัตว์ป่าพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมาย ที่รอให้ทุกท่านได้เข้ามาทักทาย รวมไปถึงป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามอีกเพรียบเลยย
“เป็นยังไงกันบ้างคะ กับสถานที่ท่องเที่ยวประเทศภูฏาน สวยงามทุกที่เลยใช่มั๊ยละคะ สวยขนาดนี้ต้องปักหมุดไว้แล้วล่ะค่า”
ชมบทความอื่นๆ
ชอบบทความ เอฟวีนิวทัวร์ ทำยังไงนะ?
1. กดแชร์ส่งต่อ ให้เพื่อนๆ อ่านกันได้ค่ะ
2. อย่าลืม กด Like กด Follow (ติดตาม) กันที่ช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter และ Subscribe ช่อง YouTube ของเราด้วยนะคะ
02-108-8666
AVENUE INTER TRAVEL GROUP
#ทัวร์ปี2021 #ทัวร์ #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์คุณปั่น #ชำนาญยุโรป #ทัวร์เอเชีย #ทัวร์สุดคุ้ม
#รับจัดทัวร์ #รับจัดทัวร์หมู่คณะ #เราชำนาญเส้นทางยุโรปและเอเชีย # ทัวร์ดินแดนมังกรสายฟ้า #ทัวร์ Pero #ทัวร์ Punakha Dzong #ทัวร์ Dochula Pass #ทัวร์ Haa Valley #ทัวร์ Phobjikha Valley #ทัวร์ Motithang Takin Preserve #ประเทศภูฏาน